รู้ไว้ พ.ร.บ.รถยนต์ คุ้มครองอะไรบ้าง?

พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์ พ.ศ. 2551 กฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อ保障และดูแลผู้ที่ประสบเหตุรถยนต์ ซึ่งอาจเป็นทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือบุคคลที่สาม ซึ่ง พ.ร.บ.รถยนต์นี้ มีสาระสำคัญหลักๆ ดังนี้ ค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น: ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลตั้งแต่แรกที่นำส่งโรงพยาบาลจนถึง 30 วันหลังจากเกิดอุบัติเหตุ และจำกัดวงเงินที่ 30,000 บาทต่อคน รวมถึงผู้โดยสาร สูงสุดไม่เกิน 5 คน รวมเป็น 150,000 บาท ค่าชดเชยรายได้: ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จะได้รับค่าชดเชยสูงสุด 20,000 บาทต่อเดือน สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ค่าทดแทนอื่นๆ: สำหรับกรณีผู้ประสบภัยที่ได้รับบาดเจ็บ จนทำให้เกิดความพิการถาวร จนไม่สามารถประกอบอาชีพหรือทำงานได้ตามปกติ จะได้รับเงินทดแทนพิเศษสูงสุด 250,000 บาท แบ่งตามระดับความพิการที่ได้รับ และในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ จะมีการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ทายาทโดยชอบธรรม 350,000 บาท ค่าสินไหมทดแทนบุคคลที่สาม: ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดกับรถของบุคคลที่สาม รวมถึงอุปกรณ์และทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย แต่จำกัดวงเงินอยู่ที่ 100,000 บาทต่อครั้ง บริการช่วยเหลือ: คุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการขนย้ายรถหลังประสบอุบัติเหตุ หรือการช่วยเหลือฉุกเฉิน […]

พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์ พ.ศ. 2551 กฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อ保障และดูแลผู้ที่ประสบเหตุรถยนต์ ซึ่งอาจเป็นทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือบุคคลที่สาม ซึ่ง พ.ร.บ.รถยนต์นี้ มีสาระสำคัญหลักๆ ดังนี้

1. ค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น: ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลตั้งแต่แรกที่นำส่งโรงพยาบาลจนถึง 30 วันหลังจากเกิดอุบัติเหตุ และจำกัดวงเงินที่ 30,000 บาทต่อคน รวมถึงผู้โดยสาร สูงสุดไม่เกิน 5 คน รวมเป็น 150,000 บาท

   

2. ค่าชดเชยรายได้: ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จะได้รับค่าชดเชยสูงสุด 20,000 บาทต่อเดือน สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน

   

3. ค่าทดแทนอื่นๆ: สำหรับกรณีผู้ประสบภัยที่ได้รับบาดเจ็บ จนทำให้เกิดความพิการถาวร จนไม่สามารถประกอบอาชีพหรือทำงานได้ตามปกติ จะได้รับเงินทดแทนพิเศษสูงสุด 250,000 บาท แบ่งตามระดับความพิการที่ได้รับ และในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ จะมีการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ทายาทโดยชอบธรรม 350,000 บาท

4. ค่าสินไหมทดแทนบุคคลที่สาม: ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดกับรถของบุคคลที่สาม รวมถึงอุปกรณ์และทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย แต่จำกัดวงเงินอยู่ที่ 100,000 บาทต่อครั้ง

5. บริการช่วยเหลือ: คุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการขนย้ายรถหลังประสบอุบัติเหตุ หรือการช่วยเหลือฉุกเฉิน รวมเป็นจำนวน 5,000 บาทต่อครั้ง

6. สิทธิเรียกร้องเมื่อเกิดอุบัติเหตุ: หากเกิดอุบัติเหตุ ผู้ที่ประสบเหตุสามารถติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.รถยนต์ได้ทั้งโดยตรงหรือผ่านหน่วยบริการ

โดย พ.ร.บ.รถยนต์นี้ เป็นกฎหมายที่ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคันต้องมีไว้ เพื่อเป็นการคุ้มครองและรับรองว่าผู้ขับขี่และผู้ที่เกี่ยวข้องจะได้รับการดูแลและชดเชยอย่างเป็นธรรมในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ